วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

งานแถลงข่าวหนังสั้น

ประจำวันที่ 20 ก.พ 55 (สุดท้ายแล้วว)







วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

งานแถลงข่าวหนังสั้น <ต่ออีก>

งานแถลงข่าวหนังสั้น

14 ก.พ 55 

กลุ่ม 5 - กลุ่ม 10












งานแถลงข่าวหนังสั้น

งานแถลงข่าวหนังสั้น
13 ก.พ 55

กลุ่ม 1 ทีมสามห้าว 





กลุ่ม 2 ทีม PLANTS



กลุ่ม 3 ทีม G2



กลุ่ม 4 ทีม NPG



รวมทั้ง 4 กลุ่มในวันที่ 13 ก.พ 55






วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หลักการเป็นพิธีกรที่ดี...

หลักการเป็นพิธีกรที่ดี


            พิธีกร (Master of Ceremony: MC) คือ ผู้ดำเนินการในพิธีต่าง ๆ เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่ กำกับ  อำนวยการ ให้กิจกรรม รายการหรือ พิธีการต่าง ๆ ดำเนินการไปให้แล้วเสร็จ เรียบร้อยตามวัตถุประสงค์และกำหนดการที่วางไว้

หน้าที่ของพิธีกร  
1. เป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ผู้ฟัง / ผู้ชม / ผู้เข้าร่วมพิธี โดยอย่างน้อยจะต้องมี ขบวนการดังต่อไปนี้ เช่น ตามลำดับ ในแต่ละกิจกรรม
             1.1 แจ้งกำหนดการ
             1.2 แจ้งรายละเอียดของรายการ
             1.3  แนะนำผู้พูด ผู้แสดง
             1.4 ผู้ดำเนินการอภิปรายและอื่น ๆ
2. เป็นผู้เริ่มกิจกรรม / งาน / พิธี / รายการ เช่น
             2.1 กล่าวทักทาย ต้อนรับเชิญเข้าสู่งาน
             2.2 เชิญเข้าสู่พิธี ดำเนินรายการต่าง ๆ แล้วแต่กิจกรรม
             2.3 เชิญ เปิดงาน – ปิดงาน
3. เป็นผู้เชื่อมโยงกิจกรรม / งาน / พิธี / รายการต่าง ๆ เช่น
              3.1 กล่าวเชื่อมโยงเหตุการณ์ตามลำดับ
              3.2 แจ้งให้ทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการ
              3.3 แจ้งขอความร่วมมือ
              3.4 กล่าวเชื่อมโยงรายการให้ชวนติดตาม
              3.5  เป็นผู้ส่งเสริมจุดเด่นให้งานหรือกิจกรรมและบุคคลสำคัญในงานพิธี / รายการโดยพิธีกรจะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ในวาระที่เหมาะสม
             3.6 กล่าวยกย่องสรรเสริญ ชื่นชมบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในพิธี
             3.7 กล่าวถึงจุดเด่นของงานพิธีนั้น ๆ
             3.8 กล่าวแจ้งผลรางวัลและการมอบรางวัล
4. เป็นผู้ที่สร้างสีสัน บรรยากาศของงาน / พิธี / รายการ เช่น
              4.1 ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเป็นระยะ
              4.2 มีมุขขำขึ้นเป็นระยะ ๆ
5. เป็นผู้เสริมสร้างความสมานฉันท์ในงาน / กลุ่มผู้ร่วมงาน เช่น
              5.1 กล่าวละลายพฤติกรรม
              5.2 กล่าวจูงใจให้รักสามัคคี
6. เป็นผู้เติมช่องว่างและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในงานพิธีต่าง ๆ เช่น
              6.1 กล่าวชี้แจงกรณีบุคคลสำคัญไม่สามารถมาช่วยงานพิธีต่าง ๆ ได้
             6.2  กล่าวทำความเข้าใจกรณีต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการ 

          การเตรียมตัว
   1.ศึกษาข้อมูล / วิเคราะห์สถานการณ์ ผู้นำ ผู้ชม โอกาส วัตถุประสงค์ของงานพิธี รายการที่กำหนดไว้
เพื่อทราบความมุ่งหมายของการทำหน้าที่
   2.เตรียมเนื้อหาและคำพูด เริ่มต้นอย่างไร  มุขตลก ขำขัน แทรกอย่างไร คำคม ลูกเล่น จุดเด่นที่                        ควรกล่าวถึง ต้องเตรียมค้นคว้าศึกษาจากศูนย์ข้อมูลมาให้พร้อม
   3.ตรวจสอบความเหมาะสม ของบทความที่เตรียมมาว่าเหมาะสมกับเวลาหรือไม่
   4.ต้องมีการฝึกซ้อมไม่ว่าจะซ้อมหลอกหรือซ้อมจริง ต้องมีการฝึกซ้อม
   5.ศึกษาสถานที่จัดงานหรือพิธีที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
   6.เตรียมเสื้อผ้าและชุดการแต่งกาย อย่างเหมาะสมกับกิจกรรม พร้อมดูแลตั้งแต่ หัวจรดเท้า

ข้อควรปฏิบัติ
      ในการทำหน้าที่ของพิธีกรหรือโฆษก มีดังนี้
    •  ทำจิตให้แจ่มใส
    •  ไปถึงก่อนเวลา
    •  อุ่นเครื่องแก้ประหม่า
    •  ทำหน้าที่สุดฝีมือ
    •  เลื่องลือผลงาน

ข้อพึงระวัง 
      สำหรับการทำหน้าที่เป็นพิธีกร  
   •  ต้องดูดีมีบุคลิก
   •  ต้องรักษาเวลาอย่างเคร่งเครียด
   •  ต้องแสดงออกอย่างสุภาพและให้เกียรติ ร่าเริงแจ่มใส ให้ความเป็นกันเอง
   •  ต้องมีการประสานงานด้านข้อมูล และพร้อมเผชิญปัญหาโดยไม่หงุดหงิด
   •  ต้องใช้ภาษาให้ถูกต้องชัดเจนให้ชวนฟัง น่าติดตาม
   •  ต้องเสริมจุดเด่นของคนอื่นไม่ใช่ของตนเอง
   •  สร้างความประทับใจ ด้านสุภาษิต หรือคำคม 

**************************************************************************************

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เทคนิคการออกแบบและนำเสนออย่างสร้างสรรค์ด้วยการ สร้างสถานการณ์จำลองการแถลงข่าว

เทคนิคการออกแบบและนำเสนออย่างสร้างสรรค์ด้วยการ 
สร้างสถานการณ์จำลองการแถลงข่าว
              
             ในโลกยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารมีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทาให้ "การประชาสัมพันธ์" หรือ "การส่งผ่านข่าวสารไปสู่สาธารณชน" เป็นไปด้วยความคล่องตัว รวดเร็ว ฉับไว หลายองค์กร ศึกษาและเรียนรู้ประสิทธิภาพการสื่อสารแบบไร้พรมแดนและขีดจากัด เพื่อนามาใช้ในการประชาสัมพันธ์องค์กรของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมหนึ่งที่หลายองค์กรนิยมจัดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์องค์กร และผลงานของตนสู่ประชาชน นั่นคือ การจัดการแถลงข่าว

ความหมายของการแถลงข่าว 
             การแถลงข่าวคือ การกระจายข่าวสารของเรา ไปสู่สาธารณชน โดยผ่านสื่อสารมวลชน ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออินเตอร์เน็ต เป็นการให้ข่าวสารโดยตรง ผ่านคำแถลงของผู้แถลงข่าว หรือ Spokeperson

 ข้อดีของการแถลงข่าว 
1. ไม่ผ่านการตีความจากสื่อ 
2. ทาให้ข่าวสารมีความถูกต้อง ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้กระจายข่าวสาร 
3. การแถลงข่าว ยังได้รับการยอมรับว่า เป็นสิ่งสาคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติอีกด้วย

ดังนั้น การแถลงข่าว จึงไม่ใช่อาวุธสำคัญของการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ยังเป็นอาวุธสำคัญในการประชาสัมพันธ์ทั่วไปอีกด้วย ทุกอย่างอยู่ที่การเตรียมการ การวางแผน และลงมือทำ...

ขั้นตอนการแถลงข่าว

เริ่มต้นที่ไหนดี
              หากท่านหรือหน่วยงาน สถาบัน บริษัท ห้างร้านของท่านต้องการจะจัดแถลงข่าวขึ้น อะไรคือสิ่งที่ต้องดำเนินการ ... จะเริ่มต้นตรงไหน ... อย่างไร ... มาดูที่การเตรียมการแถลงข่าวกันก่อน ท่านต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ 
1. ต้องการเสนอข่าวอะไร 
2. ต้องการเสนอข่าวให้ใคร 
3. ต้องการจะนำเสนอข่าวอย่างไร 
4. ต้องการนำเสนอเมื่อใด 
ต้องการเสนอข่าวอะไร
              ข่าวที่ท่านต้องการนำเสนอ อาจเป็นข่าวสารและกิจกรรมทั่วไปขององค์กร เช่น การแถลงข่าวประจำเดือน การเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือเป็นการแถลงข่าวโครงการที่จัดทำขึ้น เช่น โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ โครงการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน หรือโครงการที่น่าสนใจของบริษัท ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขององค์กร ในลักษณะของการให้ข้อเท็จจริง หรือชี้แจงความคืบหน้าของสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
ต้องการเสนอให้ใคร 
             เป้าหมายของท่าคือ สื่อมวลชน หรือทั้งสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ที่ร่วมรับฟังการแถลงข่าว หรือเพียงเฉพาะประชาชนทั่วไป










วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัด คำคม "พระคุณแม่"

กิจกรรมท้ายบทเรียน
 “บุญคุณไหนไม่เท่าบุญคุณแม่  ที่มีแต่ความรักไม่รู้จักเหนื่อย ท่านห่วงใยใส่ใจเราทุกเมื่อ”
         ให้นิสิตเขียนค้นหาคำคม หรือสุภาษิต ที่เกี่ยวข้องกับวันแม่ เช่น พระคุณแม่  ทำความดีอย่างไรให้กับแม่ พร้อมเขียนบทความลงในเว็บบล็อก และ
Print ส่ง พร้อมนำเสนอในสัปดาห์หน้า ความยาวในการนำเสนอไม่เกิน 2-3 นาที  ตามหลักการพูดเพื่อการนำเสนออย่างสร้างสรรค์ ....


ป็นผู้ให้...กำเนิด...เกิดลูกรัก  
                      เป็นผู้ให้...ที่พักพิงอยู่อาศัย  
         เป็นผู้ให้ความอบอุ่น ...ทั้งกายใจ   
                                      เป็นผู้ให้...อะไร ....อะไร...ตั้งมากมาย
 บทความ
            คำว่าแม่ หาที่เปรียบใดๆในโลกนี้ไม่ได้เลย เพราะ แม่ คือ ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และที่สำคัญ เป็นผู้ให้กำเนิดเรา ถ้าไม่มีท่านเราคงไม่ได้เกิดมาในโลกใบนี้ คงไม่ได้ลืมตาดูโลกจนถึงทุกวันนี้ แม่คอยอบรมสั่งสอนเราให้เป็นคนดี ให้ความรัก ความอบอุ่นแก่เรา เป็นคนที่อยู่ข้างเราเสมอ ไม่ว่าเราจะผิดหรือถูกก็ตาม เป็นผู้ให้ที่ให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แก่เรา
            แม่ คือ ผู้ที่เลี้ยงดูเราตั้งแต่อยู่ในท้อง คอยอุ้มท้องมา 9 เดือน รอวันที่เราจะเกิดมาลืมตาดูโลก เมื่อเราได้เกิดมา แม่ ก็คอยเลี้ยงดูเรา ให้ เราได้กินน้ำนมจากแม่ เพราะมันมีประโยชน์มากที่สุด แม่ มักให้อะไรที่ดีที่สุดแก่เราเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะโตมากแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่ แม่ก็ยังคิดว่าเรายังเด็กในสายตาท่านเสมอ เพราะแม่ รักเราที่สุด ผู้หญิงที่ดีที่สุดเป็นใครไม่ได้เลยนอกจาก แม่ ของเราเอง รักแม่นะคะ !!!

       






วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดการแต่งกาย

แบบฝึกหัด การแต่งกาย

1. ประโยคที่ว่า “บุคลิกดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” นิสิตเห็นด้วยหรือไม่
 ตอบ เห็นด้วย 
          เพราะ การที่เรามีบุคลิกที่ดีนั้น ทำให้เรามีความน่าเชื่่อถือ มีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย การนั่ง การเดิน หรือแม้แต่การพูดการจาก็ตาม
          การนั่ง ควรนั่งให้เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม นั่งหลังตรงไม่งอตัว จะเป็นการสร้างบุคลิกที่ดีให้แก่ตัวเราเอง
          การแต่งกาย ก็เป็นการแสดงถึงความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่ ถูกต้องตามกาลเทศะ เป็นการให้เกียรติกันและกัน
          การพูดการจา เป็นการสร้างมิตรภาพอย่างหนึ่ง การที่เราจะพูดจากับใครควรใช้น้ำเสียง กริยา ท่าทาง ให้เหมาะสม เพื่อเป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับผู้ที่รับฟังเรา
      ทั้งหมดนี้ เป็นการสร้างบุคลิกที่ดี ให้กับตัวเอง เพื่อสร้างความประทับใจ และ เป็นที่ยอมรับกับผู้พบเห็น ......


2. ถ้านิสิตเป็นคนมีรูปร่างอ้วนควรแต่งกายอย่างไร พร้อมภาพประกอบ








1.เสื้อผ้าคนอ้วนที่ตัดจากผ้าสีเข้ม เสื้อผ้าคนอ้วนสีเข้มเหล่านี้จะช่วยทำให้สาวรูปร่างอ้วนดูผอมเพรียวกว่าเดิมได้ 
2.สาวรูปร่างอ้วน หากต้องการปกปิดสัดส่วนตรงไหน ไม่อยากให้เป็นจุดเด่นเน้นสายตา ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าคนอ้วนหรือเสื้อผ้าไซส์ใหญ่ ที่เป็นผ้ามัน ๆ 
3.สาวรูปร่างอ้วนที่มีสะโพกใหญ่ ควรหากระโปรงคนอ้วนหรือชุดแซกแบบกระโปรงคนอ้วนที่เป็นทรงเอดีกว่า จะช่วยพรางสะโพกได้ดี
4.ถ้ารู้ว่ามีช่วงขาอ้วนจนเป็นส่วนเกิน ให้เลือกกระโปรงคนอ้วนทรงเอ ที่ยาวปกปิดได้
5.ถ้าอยากใส่เสื้อผ้าคนอ้วนแล้วทำให้เราดูดีแบบคลาสสิค ควรใส่เสื้อผ้าคนอ้วนแบบสีเดียวหรือโทนใกล้เคียงกัน
6.เข็มขัดเป็นส่วนประกอบหรือเป็นเครื่องประดับเหมาะกับเสื้อผ้าคนอ้วนที่เราเลือกใส่ให้ได้เหมือนกัน  อาจเลือกคาดเข็มขัดเส้นเล็ก ๆ ต่ำ ๆ ใต้สะโพก จะช่วยทำให้ไม่เน้นช่วงท้อง
7. หากต้องการให้ดูรูปร่างเพรียวหรือสูงขึ้น อาจใส่รองเท้าคนอ้วนแบบส้นสูง กับเสื้อผ้าคนอ้วนประเภทเสื้อสูท
8.เนื้อผ้าแบบใส่สบายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สาวรูปร่างอ้วนชอบเลือกใส่เสื้อผ้าคนอ้วนที่มีเนื้อผ้าแบบนี้มากกว่าเนื้อผ้าแบบหนา ๆ 
เสื้อผ้าคนอ้วนที่มีสีโทนแนวหวาน ต้องหลีกเลี่ยง
10.การเลือกเสื้อผ้าคนอ้วนประเภทกางเกง ควรหลีกเลี่ยง อย่าเลือกกางเกงแฟชั่นคนอ้วนที่มีกระเป๋ามาก หรือหลายใบ หรือมีที่ด้านหลังจะยิ่งทำให้ดูพองมากขึ้น
 




4. ถ้านิสิตได้รับมอบหมายให้แต่งกายในวันเปิดตัวแถลงข่าว
วีดิทัศน์หนังสั้น 

นิสิตจะแต่งกายอย่างไร

ตอบ  ถ้าในฐานะนิสิต/นักศึกษา ก็ต้องใส่เครื่องแบบนิสิตนักศึกษา อย่างเป็นระเบียบ เพราะว่า เครื่องแบบนักศึกษาเป็นเครื่องแบบอันทรงเกียรติบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ และ ความภาคภูมิในความเป็นปัญญาชนได้เป็นอย่างดียิ่ง

ถูกต้อง  สะอาด  เรียบร้อย
            ถ้าในฐานะอื่น ก็ต้องแต่งกายด้วย การแต่งยูนิฟอร์ม/ หนุ่มสาวออฟฟิศ ที่สะอาด  สุภาพ (เหมาะควรแก่กาลเทศะ)   สวยงาม  เลือกทรงผมให้เหมาะสม  ...... 





วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

บุคลิกภาพในการนำเสนอ

บุคลิกภาพในการนำเสนอ


บุคลิกภาพขณะนำเสนอ คือ สภาวะทุกอย่างของผู้นำเสนอ ทั้งสภาวะทางกายและจิตใจ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการกระทำในระหว่างการนำเสนอ บุคลิกภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่ทาให้เรามั่นใจในขณะพูด และทำให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกประทับใจ และสนใจติดตามฟัง โดยไม่รู้สึกเบื่อหรือง่วงนอนก่อนที่เราจะพูดจบ
บุคลิกภาพที่ดีในการนำเสนอน้ันประกอบด้วย
-การแต่งกาย
-การใช้ภาษา
-การใช้เสียง/จังหวะการพูด
-การแสดงออกที่เหมาะสม
การแต่งกาย(Dressing)
การแต่งกายเป็นจุดแรกที่ดึงดูดสายตาผู้คน เครื่องแต่งกายเป็นตวับ่งบอกถงึบุคลกิ นิสัย ความเป็นมืออาชีพทำให้ผ้ฟังรู้สึกประทับใจก่อให้เกิดทัศนคติที่ดีอยากติดตามฟัง
เทคนิคการแต่งกาย
ผม - เล็บตัดสั้น ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
เครื่องประดับ - ควรมีแต่พอเหมาะ
เสื้อผ้า
- แต่งกายให้สะอาด สุภาพ เรียบร้อย สีเรียบ ไม่ฉูดฉาด
- แต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะและสถานที่
- ไม่ควรใส่ กระโปรงยาวหรือสั้นเกินไป(สำหรับสุภาพสตรี)

การใช้ภาษา
- ใช้ภาษาให้เหมาะกับกล่ม ผู้ฟัง
- ภาษาที่ใช้ต้องมีความชัดเจน
- ใช้ภาษาที่สุภาพ อักขระถูกต้องและเข้าใจง่าย
- กะทัดรัดได้ใจความ ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย

การใช้เสียง/จังหวะการพูด
-  เป็นธรรมชาติไม่ทุ่มหรือแหลมจนเกินไป
-  พูด ด้วยความเร็วที่เหมาะสม ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป
-  พูดให้ดังและชัดเจน ไม่ใช้ระดับเสียงเดียว
-  รู้จักการใช้เสียงสูง– ต่ำ ในการเน้นความหมายอย่างเหมาะสม
-  เว้นวรรคคำให้ถูกต้อง

การแสดงออกที่เหมาะสม
การใช้สายตา (Eye Contact)
ภาษากาย (Body Language)
การนั่งนำเสนอ
การยื่นนำเสนอ
มือ/แขน

การพูดในที่สาธารณะ

การพูดในที่สาธารณะ
1. ในการพูด สร้างบุคลิกภาพ
    1.1 ด้านภาพลักษณ์
    1.2 ด้านการพูด
    1.3 ด้านปฏิภาณไหวพริบและด้านจิตใจ
2. การเตรียมตัวก่อนการพูด
    2.1 เตรียมเนื้อหา  
    2.2 ฝึกซ้อม  
    2.3 การเตรียมใจ  
3. การใช้ไมโครโฟน (ไมค์)
    3.1 การจัดเตรียมไมค์   
    3.2 วิธีการจัดไมค์ที่ถูกต้องในการพูด
4. การวางท่าทางขณะพูด
    4.1 กรณีที่ยืนตรง  
    4.2 การวางมือ
    4.3 กวาดสายตาไปทั่วห้อง
5. เทคนิคการสร้างความสนใจจากผู้ฟัง
    5.1 การสร้างความคุ้นเคยกบั ผู้ฟัง
    5.2 การตั้งคำถามกับผู้ฟัง
    5.3 ควรมีการยกตัวอย่าง
    5.4 พูด ด้วยน้ำเสียงสูง ต่ำ
    5.5 มีการสอดแทรกมุกตลก
    5.6 มีการนำเสนอแบบหักมุม
    5.7 การใช้กิจกรรมที่ให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม
6. เทคนิคการแนะนำประวัติวิทยากร
    6.1 กล่าวถึงความสำคัญของเนื้อหา
    6.2 กล่าวถึงความสำคัญของวิทยากร 
    6.3 กล่าวถึงลักษณะเด่น
    6.4 กล่าวถึงประวัติการณ์ศึกษา
    6.5 กล่าวถึงตำแหน่งและชื่อสกุล ของวิทยากร
    6.6 เมื่อวิทยากรบรรยายจบ
7. ขั้นตอนการทำหน้าที่พิธีกรในช่วงพิธีการเปิดประชุม /  ฝึกอบรม
    7.1 ไหว้แนะนำตัว
    7.2 กล่าวถึงความเป็นมา
    7.3 เมื่อประธานมาถึง
    7.4 เมื่อประธานพร้อม
เทคนิคการบรรยายให้มีประสิทธิภาพ
    - ตั้งวัตถุประสงค์ของการบรรยาย
    - กำหนดประเด็นของเนื้อหา
    - อธิบายวัตถุประสงค์ของแต่ละประเด็น
    - กำหนดเนื้อหา และตัวอย่างสำคัญของแต่ละประเด็น
    - การบรรยายแบบจูงใจผู้ฟัง 
    - การเชื่อมต่อประเด็น
    - การสรุปประเด็น

บุคลิกภาพการแต่งกายกับการนำเสนออย่างสร้างสรรค์

บุคลิกภาพการแต่งกายกับ การนำเสนออย่างสร้างสรรค์



การมีบุคลิกภาพที่ดีต้อง
-สุขภาพ
-ความสะอาด
-การยิ้ม
ความเป็นมาของการแต่งกาย 
1. เป็นวัฒนธรรมของแต่ละชาติ 
2. มีการปลูกฝังตั้งแต่ในครอบครัว
ความสำคัญของการแต่งกาย
-สามารถสื่อสารได้
-ช่วยเสริมบุคลิกภาพ
หลักการแต่งกายที่ดูดี มีเสน่ห์
- เน้นความเป็นตัวของตัวเอง
- ถูกต้องตามกาละเทศะ
- สะอาด สุภาพ เรียบร้อย สวยงาม
- รู้จักดัดแปลงแก้ไข
- สร้างเอกลักษณ์ให้กับตนเอง
การแต่งกายให้ดูดี มีเสน่ห์
-การแต่งหน้า 
-ทรงผม 
-เสื้อผ้า-สุภาพ 
การเลือกเสื้อผ้าตามรูปร่าง
หากเป็นคนผอมบาง
- ใส่สีอ่อนหรือสีสว่าง จะช่วยให้ดูเปล่งปลั่ง
- สามารถใช้เนื้อผ้าที่มันวาวเพื่อเพิ่มขนาดร่างกาย 
- หลีกเลี่ยง ผ้าแข็ง ผ้าหนา แนบเนื้อ หรือรัดรูป
หากเป็นคนอ้วน
- สวมเสื้อผ้าที่เสริมไหล่
- ควรเป็นเสื้อผ้าเนื้อเรียบ เบาบาง
- เสื้อควรเป็นคอวี ลายคั้ง
- ผ้าสีเข้ม ช่วยให้ดูผอม
เป็นคนสูงใหญ่
- ควรสวมเสื้อผ้าที่หนา
- เสื้อคอกว้างๆ แขนกว้างๆ
เป็นคนตัวเตี้ย
- ควรเป็นผ้าสีเดียวกันทั้งชุด
- เสื้อลายแนวตั้งกระเป๋าด้านเดียว
- เสื้อคอวีแขนยาวไม่จีบพอง
- กางเกงควรรีดเป็นจีบคมขายาว
- รองเท้าสีเดียวกับกางเกง
ผิวขาว
- สีกรม ดำ ช่วยขับผิว ถ้าเป็นสีสดใช้สีอ่อน ใช้ได้เกือบทุกสี
ผิวคล้ำ
- สีเหลืองเทาๆครีมสีเบจน้าตาลอ่อนฟ้าเขียวอ่อนไม่ควรเป็นสีน้าตาลเข้มหรือสีเข้มอื่นๆ

การแต่งกายในสถานการณ์ต่างๆ
 การแต่งเครื่องแบบ 
 -เครื่องแบบนักศึกษา 
 -เครื่องแบบ ยูนิฟอร์ม
 -เครื่องแบบข้าราชการ เต็มยศ ปกติขาว
การแต่งสูท
-อย่าสวมสูทที่คับเกินไป
-งานพิธีควรเป็นสูทสีเข้มเช่นน้าเงินเข้มดำและน้ำตาลเข้มงานศพใช้ได้เฉพาะสูทดำ
-เนคไทเป็นตัวบอกบุคลิกเฉพาะ
การแต่งกายแบบไทย
-ชุดประจำชาติของไทย
-ชุดไทยประยุกต์-ชุดไทยดุสิต-ชุดไทยจักรี-ชุดไทยจิตรลดา-ชุดไทยเรือนต้น -พยายามกลัดกระดุมทุกเม็ด
การแต่งกายไปงานกลางคืน /งานราตรี
-ชาย ชุดสากลนิยม สูท ผูกไท
-หญิง กระโปรงสั้น /ยาวตกแต่งสวยงาม
-ถ้าเป็นงานราตรีสโมสร แต่งกายชุดเครื่องแบบเต็มยศ/ชุดไทย ตามที่ระบุ
การแต่งกายไปงานศพ 
งานศพที่มีหมายกำหนดการ
-แต่งกายสากลไว้ทุกข์ เสื้อเชิ้ตขาว เนคไทสีดาชุดปกติขาวสวมปลอกแขนไว้ทุกข์ ชุดไทย สวมถุงน่องดำ รองเท้าสีดาหุ้มส้น
งานศพทั่วไป
-แต่งกายสุภาพ ตามสมัยนิยม นิยมสีดำมากกว่า

      การเลือกรองเท้า-ถุงเท้า
หญิง : รองเท้ามีส้นเหมาะสมที่สุด ถุงน่องควรเป็นสีธรรมชาติ เหมาะกับสีผิว
ชาย : ตามกาลเทศะ ข้อควรระวังคือ ถุงเท้า ระวังเรื่องสี ความสะอาด และสภาพการที่ยังใช้การได้

      การดูแลรักษาเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
-เสื้อผ้าสำเร็จรูป เลือกที่ตัดเย็บประณีต ดูดี ราคาย่อมเยา ต้องดูแลรักษาให้ดี ควรซักรีดเองไม่ควรโยน  กองเสื้อผ้าในตระกร้า หรือสวมไม้แขวนโลหะ
-การเก็บพับอาจทำให้เกิดรอยและเสียรูปทรงได้
-เมื่อพบรอยด่างดา หรือชำรุดต้องรีบแก้ไขซ่อมแซมทันที

*เสื้อผ้าเหมือนฉลากหรือหีบห่อภายนอก ถ้าตกแต่งให้สะอาด ประณีต สวยงาม เหมาะสมจะทำให้สินค้าภายในมีคุณค่า

        เครื่องประดับ
-ที่ติดผม                                     
-ต่างหู
-สร้อยคอ                                   
-เข็มกลัด
-นาฬิกา / กำไล                          
-แหวน
-ปากกา                                       
-ที่ติดเนคไท
 
        ประวัติเนคไท
     เครื่อง ประดับตกแต่งลำคอนั้นมีใช้มานานตั้งแต่ยุคโบราณ เพื่อเป็นการบอกยศ ตำแหน่ง หรืออาดเพียงเพื่อใช้ซับเหงื่อ โดยยุคแรกของ เน็คไท มีต้นกำเนิดมาจาก เครื่องประดับลำคอ หรือ "คราแวท" โดยผู้นำแฟชั่นนี้ก็คือพระพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสนั้นเอง
    "คราแวท" ที่ว่านี้ ถือกาเนิดขึ้นภายหลังจากที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทอดพระเนตรเห็นเครื่องประดับคอลักษณะคล้ายโบที่ทหารโครเอเชียสวมอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยคาว่า "คราแวท" นั้นก็มีรากศัพท์มาจากคำว่า โครแอต ซึ่งแปลว่าชาวโครเอเชียนั่นเอง
     ในปี พ.ศ.2467 ช่าง ตัดเสื้อชาวอเมริกันชื่อ เจสซี แลงสดอร์ฟ ได้คิดค้น และจดลิขสิทธิ์ เน็คไท ซึ่งผลิตขึ้นจากผ้าตัดเฉียงๆแบบเดียวกับที่เราเห็นกันชินตาอยู่ในปัจจุบัน

       มีวิธีเลือกผูกเน็คไท ให้เหมาะสมกับขนาดเนคไท ง่ายดังนี้ 
-ไทค์หน้ากว้าง 4 นิ้ว เป็นอิตาเลียนสไตล์ เหมาะกับการผูกแบบทบ หรือสองทบง่าย ๆ แล้วจะเกิดรอยบุ๋มแบบหยดน้า หรือเป็นแฉกคล้ายทองหยิบ ขึ้นอยู่กับเนื้อผ้า และการกำหนดปมตอนแรก
-ไทค์หน้าแคบลงมาประมาณ 3.5 นิ้ว เหมาะกับการผูกแบบวินเซอร์ เป็นปมสามเหลี่ยมแบบอังกฤษ และแบบทบ หรือสองทบที่เรียกว่าโฟร์อินแฮนด์ หรืออเมริกันก็ได้ แต่ถ้าผูกแบบโฟร์อินแฮนด์แล้ว ไทค์แบบอิตาเลียนจะสวยกว่า    

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

สร้างข้อความเหมือนควันบุหรี่ โดย Photoshop

สร้างข้อความเหมือนควันบุหรี่ โดย Photoshop
สร้างข้อความเหมือนควันบุหรี่ โดย Photoshop

1. พิมพ์ข้อความ
2. Filter ---> Distort ---> Ripple ตั้งค่า Amount ประมาณ 85% Size = Large แล้วคลิก OK ได้ เลย
3. double click ที่ layer text แล้วเลือกที่ Satin ตั้งค่าต่างๆ
4. จากนั้น click ขวาที่ layer text แล้วเลือก Duplicate layer แล้วตั้งค่า layer นั้นเป็น Muliply และ Opacity เป็น 20% จากนั้นให้คลิกที่ layer text อันแรกแล้วไปที่ Filter ---> Blur ---> Gaussian Blur ตั้งค่าเป็น 1.6
5. เลือก Pencil tool แล้วลากเว้น
6. Filter ---> Distort ---> Ripple ตั้ง Amount = 85% Size = Large แล้วคลิก OK ได้เลย จากนั้นให้ไปที่ Filter ---> Blur ---> Gaussian Blur แล้วตั้งค่าเป็น 1.4
7.Click ขวาที่ layer ที่เราคัดลอกมาแล้วเลือก Blending Options แล้วเลือกที่ Color Overlay แลวทำการ
ตั้งค่า

เทคนิคการ Retouch ด้วย Photoshop CS3 เพื่อใช้ในงานโปสเตอร์
        วิธีการใช้โปรแกรม Photoshop CS3 โปรแกรมตกแต่งภาพ ด้วยการ Retouch เพื่อการตกแต่งภาพด้วยการตัดต่อภาพให้ดูน่าสนใจมากขึ้นด้วยภาพ Background กับภาพนางแบบ ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ในการออกแบบงานกราฟิกประเภทโปสเตอร์ หรือโบว์ชัวร์ได้

ขั้นตอนที่ 1 เปิดภาพทิวทัศน์ที่ต้องการด้วยโปรแกรม Photoshop CS3
ขั้นตอนที่ 2 เปิดภาพนางแบบที่ต้องการ
ขั้นตอนที่ 3 ทำการ SELECT ส่วนของภาพนางแบบที่ต้องการ
ขั้นตอนที่ 4 ทำการ move ภาพนางแบบมาวางบนภาพทิวทัศน์
ขั้นตอนที่ 5 เลือก add vector mask ด้านล่างขวาบน menu layer
ขั้นตอนที่ 6 จะปรากฏสัญลักษณ์บนlayer ของนางแบบแล้วใช้ Eraser tool หรือยางลบ ลบส่วนต่างๆของภาพนางแบบที่ไม่ต้องการเพื่อให้มองทะลุเห็นภาพ Background ที่เป็นทิวทัศน์ซึ่งสามารถเพิ่มลดขนาดของBrush ได้ด้วยการกด "บ"และ"ล"



วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ปฏิบัติการออกแบบโปสเตอร์ด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop


ออกแบบโปสเตอร์ด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop

โปรเตอร์ เรื่อง "  Brother"


คนบางคน เมื่อเจอรักที่แท้จริง แต่กลับมองข้าม
เราจะมองเห็น เห็นค่า ต่อเมื่อ เราสูญเสียมันไปแล้ว .... !!!